สหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกาเป็นทั้งสองประเทศที่พูดภาษาเดียวกัน – ด้วยภาษาอังกฤษ แต่บางที การออกเสียงของชาวอังกฤษและชาวอเมริกันนั้นไม่มีความคล้ายคลึงกันมากนัก ความเป็นจริง มีความแตกต่าอย่างมากทางภาษาของสองประเทศที่พูดภาษาอังกฤษที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน งั้นควรออกเสียงภาษาอังกฤษแบบอังกฤษหรืออังกฤษแบบอเมริกัน? บทความต่อไปนี้จะให้คำตอบกับคุณ
Menu
วิธีแยกแยะสำเนียงอังกฤษ – อังกฤษและสำเนียงอังกฤษ – อเมริกัน
เช่นเดียวกับความแตกต่างระหว่างการออกเสียงของภาคเหนือ – ภาคกลาง – ภาคใต้ในภาษาไทย สำเนียงอังกฤษและอเมริกันต่างก็มีความแตกต่างกันตามที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ ปกติเมื่อพูดถึงสำเนียงอังกฤษ – อังกฤษ คนมักจะนึกถึง RP (Received Pronunciation) หรือที่เรียกว่า BBC English
ต่างจากคนอเมริกัน ที่จะแทนหน่วยเสียง /t/ เป็น /d/ ขณะเดียวกันคนอังกฤษก็จะออกเสียงพยัญชนะ /t/ ระหว่างสระที่ชัดเจนและถูกต้องทั้งสองหน่วยเสียง ในสระ /o/ สำเนียงอังกฤษออกเสียงว่า /ɒ/ ปากเป็นวงกลม และชาวอเมริกันบางคนจะออกเสียงว่า /a:/ ตัวอย่างเช่น copy จะออกเสียง /kɒpi/ ในขณะที่สำเนียงภาษาอังกฤษ-อเมริกันจะออกเสียงว่า /kɑːpi/
สำหรับสำเนียงอังกฤษ-อเมริกัน ผู้คนมักนึกถึง General America (GenAm) ทันที หรือที่เรียกกันว่าเสียงผู้ประกาศ “newscaster accent” นักภาษาศาสตร์บางคนเชื่อว่าหากออกเสียงสำเนียงอังกฤษ – อังกฤษ ทำให้เข้าใจถึงความเป็นทางการและความสุภาพเรียบร้อย ส่วนสำเนียงอังกฤษ – อเมริกัน ก็จะดูมีความใกล้ชิดและฟังง่ายกว่า
ลักษณะเด่นที่สุดของสำเนียงอังกฤษ – อเมริกัน คือการออกเสียง “rhoticity” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตัวอักษร “r” จะออกเสียงอย่างชัดเจนแม้ว่าจะวางไว้ที่ท้ายประโยคก็ตาม ตัวอย่างเช่น คำว่า “car” จะออกเสียง /ka:r/ โดยกดที่เสียง “R” ในตอนท้าย ขณะเดียวกันที่ภาษาอังกฤษแบบอังกฤษหน่วยเสียงสุดท้ายนี้แทบจะหายไป
ในกรณีที่คล้ายกันก็คือเสียง /l/ ในอังกฤษ-อเมริกัน เสียง /l/ ที่ส่วนท้ายของคำนั้นๆจะออกเสียงชัดเจนมาก แต่ก็เกือบจะหายไปในการออกเสียงภาษาอังกฤษ-อังกฤษ ตัวอย่างที่น่าสนใจคือ ถ้าคุณฟังชาวอังกฤษพูดคำศัพท์ 2 คำนี้ pool – pull คุณจะเห็นว่า….2 คำนี้ออกเสียงเหมือนกัน แต่ชาวอเมริกันจะพูดคำสองคำนี้ต่างกันมาก
ควรออกเสียงสำเนียงอังกฤษ – อังกฤษ หรือ อังกฤษ – อเมริกัน?
หลายท่านยังคงสงสัยว่าจะฝึกการออกเสียงสำเนียงอังกฤษ – อังกฤษ หรือ อังกฤษ – อเมริกัน อันที่จริงเราไม่สามารถตัดสินได้ว่าสำเนียงใดถูกต้องกว่าเพราะเป็นภาษาของคนทั้งประเทศ แต่คุณสามารถเลือกออกเสียงได้ทุกเสียงที่เหมาะกับความชอบและจุดประสงค์ของคุณ
ตามจุดประสงค์ของการเรียนรู้
ในการสื่อสารโดยพื้นฐานแล้ว ไม่ว่าคุณจะพูดสำเนียงอังกฤษ – อังกฤษหรืออังกฤษ – อเมริกัน อีกฝ่ายหนึ่งก็จะสามารถเข้าใจได้ง่าย แต่ถ้าคุณสอบ IELTS หรือ TOEIC ความแตกต่างนี้จะเป็นปัญหาที่ใหญ่มาก การทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างสองภาษานี้จะช่วยคุณได้มากเวลาทำข้อสอบ หากเป้าหมายของคุณคือการได้คะแนนสูงในการสอบเหล่านี้ คุณควรเลือกสำเนียงอังกฤษ-อเมริกัน เหตุผลก็คือสำเนียงอังกฤษ-อเมริกันคิดเป็น 70-80% ของการทดสอบการฟัง ในขณะที่สำเนียงอังกฤษ -อังกฤษมีสัดส่วนเพียง 10-15% อย่างไรก็ตาม IELTS สามารถใช้ได้ทั้งภาษาอังกฤษ Australian English และ Canadian English ดังนั้นคุณต้องฝึกฟังสำเนียงที่หลากหลายให้มากขึ้น
ตามความชอบ
การออกเสียงตามสำเนียงอังกฤษ – อังกฤษจะให้ความรู้สึกเป็นทางการและสุภาพเรียบร้อย ดังนั้น หากคุณเป็นคนที่รักความคลาสสิก สำเนียงนี้จึงเหมาะสำหรับคุณ ในทางตรงกันข้าม หากคุณหลงใหลในอิสรภาพและเสรีภาพ การออกเสียงภาษาอังกฤษ-อเมริกันเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด การเลือกการออกเสียงตามความต้องการจะช่วยให้คุณมีแรงจูงใจในการเรียนมากขึ้น
ตามความคุ้นเคย
วิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการเรียนรู้ภาษาคือวิธีการ “ซึมซับภาษา” ซึ่งหมายความว่าหากคุณดูหนัง ฟังเพลง US บ่อยๆ คุณจะอ่อนไหวงและจดจำสำเนียงอเมริกันได้ง่าย
อุตสาหกรรมสื่อของสหรัฐอเมริกาได้รับการพัฒนาอย่างมาก รวมทั้งสื่อการฟังก็มีความหลากหลายและสมบูรณ์เช่นกัน
คุณก็สามารถเลือกรับชมรายการที่หลากหลายและน่าสนใจได้อย่างง่ายดาย
ในทางตรงกันข้าม สำเนียงอังกฤษ – อังกฤษจะเหมาะกับคุณอย่างยิ่งหากคุณสนใจที่จะท่องเที่ยวและสำรวจวัฒนธรรมของสหราชอาณาจักร
ฝึกออกเสียงสำเนียง อังกฤษ – อังกฤษ และ อังกฤษ – อเมริกันได้จากไหน?
ไม่ว่าคุณจะออกเสียงเป็นสำเนียงอังกฤษ-อังกฤษ หรืออังกฤษ-อเมริกัน คุณก็ยังจำเป็นต้องรู้กฎพื้นฐานของการออกเสียง ในการทำสิ่งนี้ คุณต้องมีแผนการเรียนรู้ที่ชัดเจนรวมถึงวิธีการเรียนรู้ที่เหมาะสม GOGA – แอปพลิเคชันเรียนภาษาอังกฤษเป็นตัวเลือกในอุดมคติของคุณ
เรียนรู้กับ GOGA Pronun ผู้เรียนจะได้สัมผัสแผนการเรียนรู้อย่างมีหลักการซึ่งประกอบด้วย 3 ขั้นตอน:Core Pronun – การออกขั้นพื้นฐาน Deep Pronun – การออกเสียงเชิงลึก และ
Advanced Pronun – การออกเสียงขั้นสูง
คุณจะได้เรียนรู้ผ่านวิดีโอแนะนำการออกเสียงทั้ง 72 ไฟล์จากครูเจ้าของภาษา ในวิดีโอจะมีรายละเอียดพร้อมคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีสร้างรูปร่างปาก วิธีวางลิ้น ใช้ลม และอื่นๆ ซึ่งเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ไม่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษ
ใน GOGA เทคโนโลยี AI มีบทบาทเป็น “ครูเจ้าของภาษา” ที่คอยช่วยเหลือ คอยแก้ไขข้อผิดพลาดในการออกเสียงอย่างละเอียดในแต่ละพยางค์ให้แก่ผู้เรียน… โดยการบันทึกเสียงพูดของผู้เรียน เทคโนโลยี AI จะวิเคราะห์การให้คะแนน ชี้ให้เห็นข้อผิดพลาด ที่นักเรียนกำลังเจอและให้คำแนะนำอย่างละเอียดเกี่ยวกับวิธีการแก้ไข โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีการฝึกอบรมข้อมูลจากเจ้าของภาษา 10,000 ชั่วโมง จึงทำให้ระบบมีความแม่นยำสูงสุด 97% (ตามมาตรฐาน ASR)
ในอนาคตอันใกล้ GOGA คาดว่าจะพัฒนาเทคโนโลยี The Real AI เพิ่มเติม ซึ่งป็นเวอร์ชันอัปเกรดจากเทคโนโลยี AI คุณสามารถฝึกการสื่อสารได้เหมือนกับการพูดคุยกับเพื่อนที่เป็นเจ้าของภาษาได้ทุกวัน
หนึ่งในคุณสมบัติพิเศษที่สุดของ GOGA คือการสร้างสงเวียน Arena – ซึ่งเป็นสนามประลองที่มีการแข่งขันสูงมาก ที่นี่คุณมีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันการออกเสียงที่น่าทึ่งกับผู้เรียนมากกว่า 271,332 คน จากประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เทคโนโลยี AI จะทำหน้าที่เสมือนผู้ตัดสินจริง ในการให้คะแนนการแข่งขันและค้นหาผู้ชนะ
ด้วยการแข่งขันและความปรารถนาที่จะชนะในเกมช่วยให้ผู้ใช้ลดความไม่สนใจและความเกียจคร้าน ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมแรงจูงใจที่เข้มแข็งในการเรียนรู้ ยิ่งคุณพยายามแข่งขันเพื่อไต่อันดับให้สูงมากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งมีแรงจูงใจที่จะเรียนหนักแน่นขึ้นเท่านั้น
ดาวน์โหลดแอป GOGA เพื่อพัฒนาทักษะการออกเสียงภาษาอังกฤษของตนเองทันทีวันนี้นะทุกๆคน!!!
